sea breeze ซีฟู้ด พระราม 6 บุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดตามสั่ง สั่งได้ไม่อั้น เหมือนยกทะเลมาไว้ที่กรุงเทพ

sea breeze ซีฟู้ด พระราม 6 บุฟเฟ่ต์​ซีฟู้ดตามสั่ง สั่งได้ไม่อั้น เหมือนยกทะเลมาไว้ที่กรุงเทพ

sea breeze ซีฟู้ด พระราม 6  บุฟเฟ่ต์​อาหารทะเลตามสั่ง  ร้านนี้เป็นบุฟเฟ่ต์​ซีฟู้ดตามสั่ง สั่งได้ไม่อั้น จำกัดเวลา 3 ชั่วโมง ​ ราคา 975 บาท ราคานี้รวมเครื่องดื่มและของหวานแล้ว ไม่รวมเบียร์  ต้องโทรจองคิวล่วงหน้าก่อน 2 วัน  สามารถโทรสอบถามรายละเอียดการจองเพิ่มเติมได้ที่ร้านเลยค่ะ  อยากลองมานาน การเดินทางก็ไปไม่ยากเลย  ตัวร้านอยู่บนถนนพระราม 6  ใต้ทางด่วน อยู่ด้านหลังกระทรวงการคลัง ขับเลยโรงเรียนอนุบาลสามเสนมาประมาณ 500 เมตร ร้านอยู่ซ้ายมือ

 

บรรยากาศร้านจะดูร่มรื่น มีต้นไม้ใบเขียว ดูเป็นธรรมชาติมาก

 

ร้านอาหารจะเป็นเปิดโล่ง open Air สามารถเลือกมุมนั่งได้ทั้งในมุมสวนกลางแจ้ง

กับในตัวร้านด้านใน วันนี้ดูฟ้าครึ้ม กลัวฝนจะตก เราเลยเลือกนั่งในโซนร้านด้านในค่ะ

 ด้านข้างตัวร้าน มีตู้ปู ตู้ปลา บ่อกุ้ง ให้เราไปเดินดูได้เลย  

อาหารทะเลที่เราได้ทาน ก็จับกันแบบสดๆ มาทำอาหารเลยทีเดียว

 

เวลาสั่งอาหารที่นี้ จะเป็นแบบให้เราคิดเมนูว่าจะนำวัตถุดิบไปทำอะไร

เขียนต่อท้าย ใบสั่งออเดอร์ได้เลย  อย่างเช่น ปลากระพง

เราก็เติมไปว่า ทอดน้ำปลา แบบนี้  ถือเป็นไอเดียดีเลย

เพราะปกติเราไปกินร้านบุพเฟ่ต์ ไม่เคยเห็นแบบนี้สักเท่าไหร่

วันนี้เรากับแฟน อยากลองหลายเมนูเลย  กินอาหารทะเลทั้งที ก็ต้องจัดให้เต็มที่

 ประเดิมด้วย ปูม้า  ปูทะเลผัดผงกะหรี่   ปลากระพงนึ่งมะนาว หอยนางรม   กุ้งราดซอสมะขาม

 

ปูม้านึ่ง : ปูม้าเป็นๆเลยค่ะ  แค่กินปูม้านึ่ง ก็คุ้มแล้ว เนื้อหวาน สดค่ะ

 กุ้งราดซอสมะขาม  : เนื้อกุ้งสด ซอสมะขามให้ความเปรี้ยวหวานดี

ทานพร้อมกับหอมเจียวและพริกแห้งทำให้รสชาติดีขึ้น

 

ปูทะเลผัดผงกะหรี่ :  ตัวโตพอควร หน้าตาน่ากินมาก เนื้อปูสดดีค่ะ

 

หอยนางรม : หอยไซส์นี้ กินกับเครื่องเคียง โอเคเลยค่ะ อันนี้ก็ไปงมมาจากในบ่อเหมือนกัน

 

ปลากระพงนึ่งมะนาว : พนักงานเดินไปตักจากบ่อเข้าครัวเลยค่ะ  

สีสันดูแซ่บ เนื้อนิ่ม  รสชาติออกเปรี้ยว ๆ

 

ปลาหมึกนึ่งมะนาว  : เอาไว้ตัดเลี่ยนได้ดี อร่อยค่ะ เมนูนี้ชอบเลย

 

ปลากระพงทอดน้ำปลา : ปลาทอดมาได้กรอบดีมาก น้ำยำติดหวานไปนิดนึง

ราดกับตัวปลาถือว่าลงตัว  แต่สำหรับเราอยากได้มะนาวเพิ่มอีกสักซีก

 

กุ้งแม่น้ำเผา : เนื้อแน่น สด เผาออกมาได้ดี เสียดายมันที่หัวไม่ค่อยมี

 

หอยหวานเผา : มาเสริฟ์แบบร้อนๆ จิ้มกับน้ำจิ้ม ลงตัวค่ะ

 

แกงส้มไข่ปลาริวกิว: รสชาติไม่ได้เข้มมาก ไม่รสจัด ทานได้หมดทั้งเด็กและผู้ใหญ่

 

หอยลายผัดน้ำพริกเผา: รสชาติติดหวาน ไม่เผ็ดมาก ให้เครื่องเยอะ   

 

เมนูที่เราชอบเป็นพิเศษแนะนำเลยว่าอย่าพลาด :  ปลากระพงทอดน้ำปลา  กุ้งแม่น้ำเผา  

ปลาหมึกนึ่งมะนาว  ปูทะเลผัดผงกระหรี่ 

และอีกเรื่องที่ต้องชมเลย  พนักงานที่นี้ดูแลดีมากค่ะ เติมน้ำ

เติมน้ำแข็ง เก็บจานให้ตลอดค่ะ หน้าตายิ้มแย้มและเป็นมิตรกับลูกค้ามากค่ะ

สำหรับคนที่จะมาทานร้านนี้ จะต้องโทรจองก่อนล่วงหน้า 2 วัน สามารถโทรสอบถามรายละเอียดการจองเพิ่มเติมได้ที่ร้านเลยค่ะ ทางร้านจะจัดเตรียมวัตถุดิบให้พร้อมนะค่ะ  

ทางร้านเค้าจะรับลูกค้าจำกัด ช่วงล่ะ 20 ท่าน เพื่อจะได้รับการบริการที่ดี 

และหากจะยกเลิกการจองต้องแจ้งล่วงหน้าก่อนอย่างน้อย 1 วัน

  

สำหรับข้อมูลการเดินทาง

Google Map :https://goo.gl/maps/9iJLqGtz891d3891A

ร้านเปิดทุกวัน  :11:00 - 23:00 น.

โทร  : 034-845252,081-8200618,081-3048004

แฟนเพจร้านค้า : https://www.facebook.com/Seabreezeseafood/

รีวิว ไปกินอาหารทะเล ชมวิว ที่ร้านลมทะเล สมุทรสาคร

รีวิว ไปกินอาหารทะเล ชมวิว ที่ร้านลมทะเล สมุทรสาคร 

พอดีไปธุระแถวพระราม 2 พอดี ตอนแรกว่าจะไปกินอาหารทะเล ที่เซ็นทรัลมหาชัย 

แต่ไปดูแล้ว มาร้านนี้ดีกว่า ขับมาอีกครึ่งชั่วโมงเอง บรรยากาศร้านก็ดี อาหารก็อร่อยด้วย 

มาถึงแล้วจะเจอทางเข้าแบบนี้ ขับเข้าไปเลยค่ะ

 

บรรยากาศหน้าร้าน ก็ดูร่มรื่นดีนะค่ะ ใครชอบบรรยากาศแบบธรรมชาติ ลมแรงๆ แนะนำที่นี้เลยค่ะ

 

 

จะมีสะพานเชื่อมเพื่อเดินเข้าไปถึงโซนร้านอาหาร เห็นบรรยากาศภายในร้านแล้วยิ่งรู้สึกชอบ 

ถ้าถามเราว่าชอบอะไรที่ร้านนี้ นอกจากอาหาร คงจะเป็น ลมแรงๆ พัดมา นี่ล่ะ  

 

เป็นอีกจุด อีกมุม ที่น่าไปถ่ายภาพคู่กับป้ายร้าน จะได้วิวเหมือนอยู่ริมน้ำเลยล่ะ 

 

เหมือนบรรยากาศได้อยู่ตามริมน้ำเลย

 

นี่คือบรรยากาศภายในร้านอาหารจ้า เลือกนั่งได้ตามมุมเลยจ้า 

 

เรากับแฟน ด้วยความหิวเน้อ มาถึง ก็สั่ง น้ำพริกไข่ปู  ปลากระพงทอดน้ำปลา ปูม้าไป 1 กิโล 

ตอนแรกก็กลัวว่าจะกินไม่หมด 555

อาหารชามแรกมาแล้ว   น้ำพริกไข่ปู

น้ำพริกไข่ปู  น่ากินมาก

ถ้าเทียบเรื่องรสชาติ  เราว่าน้ำพริกไข่ปูยังไม่ถึงกับว่าดีมาก  ยังแพ้เจ้าที่เราเคยกินอยู่ แต่ก็ถือว่าใช้ได้

มาแล้ว ปลากระพงทอดน้ำปลา  เมนูนี้ แฟนเราบอกว่า อร่อยมาก ตั้งแต่เคยกินมา ร้านนี้อร่อยสุดแล้ว
ตอนแรกเราก็คิดว่า จะขนาดไหน  แต่พอได้กินเท่านั้นล่ะ  ปลากระพงที่นี้ทอดออกมาได้กรอบมาก กรอบนอกแล้วนุ่มในอีกต่างหาก   น้ำจิ้มปลากระพงที่นี้ จะติดรสหวานนะ  แต่ก็ถือว่าอร่อยเลย

แฟนเราขอน้ำจิ้มมาเพิ่มอีกถ้วยเลยจ้า  บอกแบ่งคนล่ะถ้วยเลย  แล้วก็หมดนะจ๊ะ 555

มาแล้ว ปูม้านึ่ง ของเรา อิอิ  สีน่ากินมากกกก 

ดูสิ ตาเจ้าปูมองเราแบบนี้  เราก็หม่ำสิจ๊ะ  55  ให้คุณแฟนแกะให้กิน  

ตอนแรกคิดว่าจะไม่หมด สรุปเกลี้ยงจ้าาา  ยังหันไปถามแฟนว่าหมดแล้วหรอ  555

แฟนเลยถามว่า เอาขนมหวานอะไรเพิ่มไหม  เราเลยเอาไอศรีมกะทิสด  ส่วนของคุณแฟน ลอดช่องจ้า
ไอศครีมกะทิของเรา ด้านล่างมี กล้วยเชื่อม มันเชื่อม เป็นเครื่องเคียง

ส่วนของคุณแฟน  ลอดช่องจ้า  ดูก็น่ากินเน้อะ  แต่ไม่ไหวล่ะ อิ่มจ้า

ดูสภาพหลังกินเสร็จ  เหลือน้ำพริกไข่ปู เลยขอห่อกลับบ้าน แล้วเช็คบิลล่ะ
มื้อนี้หมดไป พันหกร้อยกว่าบาทจ้า 

อิ่มแล้ว ก็เข้าห้องน้ำก่อน แล้วก็กลับกรุงเทพ ล่ะจ้า ^^

สำหรับข้อมูลการเดินทาง

Google Map https://goo.gl/maps/HKaDApueNwt

ร้านเปิดทุกวัน 10:00-21:30น.

โทร 034-845252,081-8200618,081-3048004

แฟนเพจร้านค้า https://www.facebook.com/Lomtalayrestaurant/

Review central village เซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่ เอาท์เล็ต แห่งแรกของประเทศไทย ใกล้สุวรรณภูมิ

central village เซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่ เอาท์เล็ต แห่งแรกของประเทศไทย  ใกล้สุวรรณภูมิ

 central village เซ็นทรัล วิลเลจ เปิดแล้ว ไปสำรวจดูสักหน่อยว่ามีอะไรบ้าง 

ไปถึงประมาณ เกือบทุ่มได้แล้วล่ะ  ถ่ายรูปออกมาได้แสงยามค่ำ สวยพอดีเลย

  ทางเข้าตกแต่งได้ดูหรูหรา  ชอบมากตรงแสงไฟส่องมาพอดี

เข้ามาในห้าง จะเจอร้านขายน้ำหอม  บรรยากาศโดยรอบ ยังคงคอนเซ็ป  ลักชูรี่ เอาท์เล็ต

 

  แผนที่ ไว้ให้เราดูข้อมูลว่า โซนที่เราอยู่ และร้านที่เราจะไปอยู่ส่วนไหนบ้าง ที่นี้เป็นศูนย์รวม แบรนด์จากทั่วโลกชั้นนำ อาทิ Chloe, Kenzo, Michael Kors, Coach, Ducati และอีกกว่า 130 ร้านค้า

 

ร้านน้ำหอม มีแจกเทสเตอร์ให้ด้วย กลิ่นติดมา 2 วันเลย

 

เดินเข้ามาด้านใน  เราโคตรชอบมุมนี้เลย โซนน้ำพุเปลี่ยนสี ถ่ายรูปออกมามีมิติมาก

 

           น้ำพุเปลี่ยนสีได้ เพิ่มความหรูหรา ให้กับพื้นที่นี้อีก เป็นมุมหนึ่งที่ต้องมาเก็บภาพ

 

บรรยากาศโดยรอบ จะมีร้านอาหาร ซึ่งถือว่ามีตัวเลือกให้ไม่เยอะนัก

 บรรยากาศภายใน มีการตกแต่ง สมกับเป็น  ลักชูรี่ เอาท์เล็ต

 

มีจุดมุมที่นั่งพัก ที่ดูตกแต่งให้ดูมีความเป็นเอกลักษณ์แบบไทย  เป็นอีกมุมที่น่าถ่ายรูปเก็บไว้

ซุ้มที่ดูเป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังมีลวดลายตัวอักษร ลายไทย ชื่อห้างอีกด้วย

 

บรรยากาศโดยรอบ มีลดราคา หลายร้าน ใครที่สายแบรนด์เนม แนะนำว่ามาแล้วจะลายตาเลยทีเดียว

 เดินเข้ามาเรื่อยๆ ถึงโซนด้านใน เจอระบำน้ำพุเปลี่ยนสี สวยมาก เป็นอีกมุมที่แนะนำให้มาถ่ายรูป

 บรรยากาศโดยรอบ  มีตกแต่งด้วยต้นไม้ และยังคงความเป็น  ลักชูรี่ เอาท์เล็ต

มีมุมโซนให้นั่งพักตามจุดต่างๆ  

 เรายังโดนป้ายยา ด้วยร้านนี้ ได้ของติดมือมานิดหน่อย  คนในร้านเพี้ยบเลย

เดินไปเรื่อยๆ จะมีโซนนั่งพัก และมุมให้ถ่ายรูปหลายมุมเลยทีเดียว

มีโซน Food village เหมือนเป็น ศูนย์รวมอาหาร คล้ายๆ ฟู้ดคอร์ด ตามห้าง

เข้ามาด้านใน จะต้องแลกคูปอง เพื่อซื้ออาหาร  มีให้เลือกพอสมควร แต่ราคาก็แอบแรงอยู่นะ 

มี Top Market ด้วย แต่ยังไม่เปิดให้บริการนะ

มีโซนมุมพักผ่อน นั่งเล่นของเด็กๆ ทั้งเครื่องเล่นเด็กๆ มีไว้รองรับ สำหรับคนที่มีลูกหลานมาด้วย

 

การเดินทางมายัง Central Village

1. โดยรถส่วนตัว (มีลานจอดรถยนต์ รองรับได้ไม่น้อยกว่า 1500 คัน)

• จากถนนบางนา-ตราด ผ่านเซ็นทรัลพลาซา บางนา ขับตรงมาเรื่อย ๆ บนถนนบางนา-ตราด แล้วเลี้ยวซ้ายทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ (ทางหลวง 370) เข้าทางคู่ขนาน เพื่อกลับรถใต้สะพานเข้าสู่เซ็นทรัล วิลเลจ

• จากทางด่วนบูรพาวิถี ขับตรงไปบนถนนบางนา-ชลบุรี แล้วออกตรงทางออกสนามบินสุวรรณภูมิ ชิดเข้าทางคู่ขนาน เพื่อกลับรถใต้สะพานเข้าสู่เซ็นทรัล วิลเลจ

• จากถนนมอเตอร์เวย์ (หมายเลข 7) ใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ไปชลบุรี แล้วออกตรงทางออกสนามบินสุวรรณภูมิ ขับตรงไปจนเจอทางออกลานจอดรถระยะยาว เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุวรรณภูมิ 2 ขับตรงไป แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนสุวรรณภูมิ 3 จากนั้นข้ามสะพาน ชิดซ้ายเพื่อเข้าเซ็นทรัล วิลเลจ

• จากถนนลาดกระบัง ขับตรงมาเรื่อย ๆ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนสุวรรณภูมิ 4 จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนสุวรรณภูมิ 3 จากนั้นข้ามสะพาน ชิดซ้ายเพื่อเข้าเซ็นทรัล วิลเลจ

2. โดยรถไฟฟ้า BTS

• ลงรถไฟฟ้า BTS สถานีอุดมสุข ใช้ทางออก 1,3, 5 หรือ ลงสถานีชิดลม เดินไปทางเซ็นทรัลเวิล์ด แล้วต่อ Free Shuttle Bus มายังโครงการ

3. โดยแอร์พอร์ตลิ้งค์

• ลงแอร์พอร์ตลิ้งค์สถานีสนามบินสุวรรณภูมิ ที่จุดจอดโรงแรม Novotel สุวรรณภูมิ จะมีบริการ Shuttle Bus ฟรี รับส่งจากสนามบินสุวรรณภูมิมายังโครงการ

4. โดยรถประจำทาง

• รถประจำทาง สาย 558 (สนามบินสุวรรณภูมิ-เซ็นทรัลพลาซา พระราม 2 – ทางด่วน) ลงป้ายมหาวิทยาลัยเกริก แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 450 เมตร มายังเซ็นทรัล วิลเลจ

Google Map   https://goo.gl/maps/CtAjRvouJMmJGRxT8
เปิดบริการทุกวัน 10:00-22:00 น.
แฟนเพจ  https://www.facebook.com/CENTRALVILLAGEfanpage/

ไปซื้อเนื้อวากิว ราคาถูก ที่ตลาดค้าส่งอาหารสด นำเข้าจากญี่ปุ่น ทองหล่อ

ไปซื้อเนื้อวากิว ราคาถูก ที่ตลาดค้าส่งอาหารสด นำเข้าจากญี่ปุ่น ทองหล่อ

วันนี้จะไปตามล่าหาซื้อเนื้อวากิว ราคาถูกกัน  จะไปทำปิ้งย่างกินกัน  เพราะถ้าไปกินที่ร้าน เนื้อวากิวA5 ราคาคงไปไกลเลย  ที่นี้เป็นศูนย์รวม อาหารสด นำเข้าส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น  ร้านอาหารส่วนใหญ่ก็ซื้อวัตถุดิบจากที่นี้  ซึ่งจะมีเวลาที่ร้านอาหารซื้อสินค้าในราคาส่ง และเวลาที่คนทั่วไปมาซื้อกัน 

ด้านหน้าร้าน จะเป็นแบบนี้ เดินเข้าร้านไปได้เลย 

เข้ามาด้านในจะมีเนื้อให้เราเลือกมากมายเลย  มีตะกร้า และรถเข็นให้เราหยิบได้เลยจ้า

เนื้อโกเบ ที่นี้ถือว่าราคาไม่แพง  สวรรค์สำหรับคนรักเนื้อเลยทีเดียว

มีเนื้อให้เลือกหลายขนาด หลายแบบ ขึ้นอยู่กับความต้องการของเรา

เนื้อวากิว A4 A5 มีให้เลือกเพี้ยบเลย  

ราคาถือว่าไม่แพงเลย  เนื้อระดับนี้

ที่นี้มีบริการย่างเนื้อให้ฟรีด้วยเลย ซื้อเนื้อแล้วให้ย่างกินได้เลยเสร็จสรรพ 

มีแบบเป็นชิ้น เลือกไปทำสเต็กก็ได้

หรือจะเป็นเซตของขวัญ เซตเนื้อก็มี 

ผัก ผลไม้ ที่ส่งตรงจากญี่ปุ่น ก็มีเพี้ยบเลย 

ผลไม้ตามฤดูกาล ที่ญี่ปุ่น ก็มีมาให้เลือกเต็มไปหมด 

ที่นี้มีบริการ อาหารตามสั่งตามรายการเหล่านี้เลย  สำหรับคนที่อยากทานอาหารญี่ปุ่นจากวัตถุดิบ สดๆ ก็สั่งตามเมนูแล้ว นั่งทานที่ชั้น 2 ได้เลยจ้า 

โซน ซูชิ ก็มีให้เลือกหลากหลายเลย

อุนนิ หอยแม่น  ที่ให้หลายคนอาจจะชอบ ที่นี้ก็มีให้เลือกจ้า

ปลาสดๆ ก็มี

หอยตัวใหญ่มาก 

หรือแบบแช่แข็ง ก็มีให้เลือกตามใจชอบได้เลย 

จะซื้อสินค้าที่นี้ จะต้องเป็น Member ก่อนเท่านั้น ถึงจะสามารถซื้อของได้ 

สามารถสมัครหน้าเคาเตอร์ชำระเงินได้เลย  ใช้เพียงแค่บัตรประชาชน

วันนี้โดนค่าเสียหายไป พันกว่าบาทจ้า  ได้วัตถุดิบเรียบร้อยล่ะ 

ชำระเงินเสร็จแล้ว ก็นำใบเสร็จไปรับคูปองจอดรถฟรีด้วยนะ สำหรับคนที่ช็อปเกิน 500 บาท จอดฟรี 1 ชั่วโมง